ทำไมผู้หญิงไทยขี้หึง?....แล้วทำไมผู้ชายญี่ปุ่นไม่เข้าใจค่ะ?

คำถามจากสาวไทย ผู้ชายญี่ปุ่นตอบ

คนญี่ปุ่นขี้เหนียวกับสาวไทยชอบสายเปย์

คุยกันให้หายคิดถึง ก่อนเข้าเรื่องงานนะ

ลำดับขั้นตอนการจัดพิธีแต่งงานแบบไทย(พิธีสู่ขอ พิธีนับสินสอน พิธีสวมแหวนหมั้น)

ไหว้ผู้ใหญ่

เมื่อฝ่ายเจ้าสาวรับขบวนขันหมากเสร็จเรียบร้อยแล้วพิธีต่อไปก็คือการนำของจากขบวนขันหมากมาจัดวางเรียงกัน 

จากนั้นเฒ่าแก่ฝ่ายชายจะเริ่มการเจรจาสู่ขอ 

พานสินสอดทองหมั้น

เมื่อตกลงยินยอมยกลูกสาวให้ ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว จะนำพานสินสอดออกมาเปิด เพื่อเข้าสู่พิธีนับสินสอด และจัดวางเรียงอยู่บนผ้าแดงหรือผ้าเงินผ้าทอง (อย่าลืมเตรียมผ้าสีมงคลสำหรับหรับรวบห่อสินสอด ต้องเป็นผ้าผืนใหญ่ เพื่อให้แม่ฝ่ายเจ้าสาว แบกขึ้นบ่าได้ และตอนแบกขึ้น อย่าลืมพูดเอาเคล็ดว่าผ้าห่อนี้หนัก คงมีเงินทองมากมาย เคล็ดลับเพื่อให้คู่บ่าวสาว มีเงินทองงอกเงยขึ้น ให้ใส่สินสอดเกินจำนวนเล็กน้อย แล้วทำทีเป็นตรวจนับสินสอดตามธรรมเนียม เพื่อเป็นเคล็ดว่า บ่าวสาวอยู่ด้วยกันต่อไปเรื่อยๆ จะมีเงินมีทองงอกเงย )

พิธีแจงสินสอด

แม่เจ้าวสาวตรวจนับสินสอด

เรียงใบเงิน ใบทอง ใบนาค และหมากพลู

การเรียงสินสอด 

เรียงสินสอดทองหมั้นเรียบร้อย 

โปรยข้าวตอก ธัญพืช และดอกไม้มงคล 

ออกมาสวยงาม และเป็นศิริมงคลกับบ่าวสาว

มอบสินสอดให้พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาว 

แม่เจ้าสาวแบกสินสอดขึ้นบ่า

ทั้งนี้ หลังจากนับสินสอดเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันโปรยถั่ว งา ข้าวเปลือก และดอกไม้มงคล ใบเงิน ใบทอง ที่บรรจุมาในพานขันหมากเอกลงบนสินสอดต่อมาแม่ฝ่ายเจ้าสาวจะห่อสินสอดด้วยผ้า แล้วแบกขึ้นไว้บนบ่า ตามประเพณี  

พานแหวนและทองหมั้น 

เจ้าบ่าวและเจ้าสาวแลกแหวน

หลังจากที่ได้นับสินสอดกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อถึงเวลาฤกา์อันเป็นมงคลตามที่กำหนดฝ่ายเจ้าบ่าวจะทำการสวมแหวนหมั้นให้ฝ่ายเจ้าสาว จากนั้นฝ่ายหญิงไหว้พร้อมกับสวมแหวนแลกกับฝ่ายชาย เมื่อสวมแหวนเสร็จมักจะมีการถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก และรอเวลาที่จะประกอบพิธีสำคัญต่อไป 

อาร์หาข้อมูลจาก Google มาลงนะคะ ส่วนพิธีอื่นๆ อาร์จะมาลงให้ติดตามกันค่ะ 

ลำดับขั้นตอนการจัดพิธีแต่งงานแบบไทย(พิธีกั้นประตูเงินประตูทอง)

พิธีกั้นประตูเงินประตูทอง

เมื่อขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวเดินทางมาถึงบ้านของฝ่ายเจ้าสาว ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว จะเป็นผู้แทนเจรจากับเถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว (ต้องเป็นผู้สมรสแล้ว ไม่หย่า ไม่เป็นหม้าย)

จากนั้นรับพานขันหมาก พานสินสอด แหวนหมั้น วางไว้ ณ จุดประกอบพิธี บรรดาญาติของฝ่ายเจ้าสาวจะมาช่วยกันกั้นประตูเงินประตูทอง เพื่อเรียกค่าเปิดทางจากฝ่ายเจ้าบ่าว ส่วนผู้ที่กั้นประตูจะถือสายสร้อยทอง สายสร้อยเงิน หรือผ้าแพรคนละด้าน เพื่อกั้นไม่ให้ขบวนผ่านไปได้ ซึ่งถ้าอิงประเพณีหลักดั้งเดิมก็จะมีประตูหลัก ๆ 3 ประตู คือ ประตูนาก ประตูเงิน ประตูทอง (จะเรียกประตูชัย ประตูเงิน และประตูทองก็ได้เช่นกัน)

 โดยฝ่ายชายจะต้องเจรจาขอผ่านทาง และต้องให้ซองใส่เงิน ให้แก่ผู้กั้นประตู หลังจากผ่านประตูทุกด่านเรียบร้อยแล้ว จะมีเด็กหญิงญาติของฝ่ายหญิงเตรียมล้างเท้าให้กับเจ้าบ่าว จากนั้นฝ่ายหญิงจะจัดเด็กผู้หญิงถือพานหมากพลูไว้รอเชิญขบวนขันหมากขึ้นเรือน ซึ่งเจ้าบ่าวต้องเตรียมซองเงินไว้เป็นรางวัลด้วยเช่นกัน

เครดิตรภาพจากงานแต่งงานลูกค้าที่เชียงรายวันที่ 23.07.2018 ที่ผ่านมาค่ะ
ขอบคุณข้อมูล จาก Google ค่ะ

เดี๋ยวอาร์จะมาลงลำดับขั้นตอนอื่นๆมาให้อ่านกันต่อค่ะ อย่าลืมติดตามกันนะคะ

ลำดับขั้นตอนพิธีแต่งงานแบบไทย (พิธีแห่ขันหมาก)

พิธีตั้งรับขันหมาก หรือ พิธีแห่ขันหมาก 

ขันหมากนั้นมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยสมเด็จพระร่วงเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ว่า “ถ้าชาวไทยทำการรับแขกเป็นส่วนใหญ่มีการอาวาห์มงคลหรือวิวาห์มงคลแล้ว ให้ร้อยกรองดอกไม้เป็นรูปพานขันหมาก และให้เรียกว่า “ พานขันหมาก”พานขันหมากจะประกอบไปด้วย พานเชิญขันหมาก พานสินสอดทองหมั้น พานแหวน พานขนมผลไม้ และพานต้นกล้วย ต้นอ้อย จำนวนของพานขันหมากที่ใช้สำหรับงานแต่งงานในปัจจุบันจะแปรผันตามรูปแบบการจัดขบวน

เพิ่มคำอธิบายภาพ

การจัดขันหมากแบบชาววังที่นิยมทำกันมี 2 แบบ คือ แบบใช้พลูจีบ และแบบที่ไม่ใช้พลูจีบ ซึ่งทั้ง 2 แบบจะใส่หมากพลูเป็นคู่ โดยใส่ 4 คู่ หรือ 8 คู่ นำมาเรียงให้สวยงาม สาเหตุที่ต้องใส่หมากพลู ก็เป็นเพราะว่าคนสมัยก่อนนิยมกินหมากกันจึงนิยมใช้หมากพลูเป็นการต้อนรับ เมื่อมีแขกมาเยี่ยมเยือนแต่ละบ้านก็จะมีเชี่ยนหมากไว้รับรองแขก จึงเป็นที่มาของการจัดขันหมากในการไปสู่ขอเพื่อแสดงไมตรีและอีกในหนึ่ง พลูเรียง ก็เปรียบเสมือนถึงการเรียงพี่เรียงน้อง เรียงญาติ นับจากนี้ก็จะถือว่าสองครอบครัวนี้ เป็นพี่เป็นน้องกัน และหมากนั้น เป็นสมุนไพรไทยโบราณที่มีสรรพคุณในการสมานแผล ก็จะเปรียบเสมือนว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ขอให้คู่บ่าวสาวนั้นได้รู้จักการสมานตัวสมานใจสมานไมตรีซึ่งกันและกัน

ส่วนดอกไม้ที่ใส่ในพานขันหมาก จะเป็นดอกไม้มงคล เช่น ดอกรัก หมายถึงความรักที่เหนียวแน่น ดอกบานไม่รู้โรย หมายถึง ความรักที่ยั่งยืน ไม่จืดจาง ดอกดาวเรือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองของบ่าวสาว

และมีของอื่นๆ ที่ใส่ในพานขันหมากอีก เช่น ใบเงิน ใบทอง ใบนาค เชื่อว่าจะทำให้มีเงินมีทองไหลมาเมมาจะทำอะไรก็แล้วแต่ก็จะมีเงินมีทองเป็นพื้นฐานไม่ขาดตกบกพร่อง  ข้าวเปลือก ใส่ไว้เป็นพันธุ์ข้าวเพื่อเป็นทุนเริ่มชีวิตครอบครัวเพราะสมัยก่อนคนไทยปลูกข้าวเป็นหลัก นอกจากนี้ยังใส่งา ถั่วเขียว ถั่วทอง ถุงเงิน ถุงทองไปอีกด้วย

ผลไม้ต่างๆ และขนมมงคลต่างๆ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองเอก สื่อถึงให้มีเงินทองร่ำรวย ขนมจ่ามงกุฎ สื่อถึงการส่งเสริมหน้าที่การงาน ขนมชั้น สื่อถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคู่บ่าวสาว ขนมเสน่ห์จันทร์ หมายถึง ให้มีความรักกันไม่เสื่อมคลาย ขนมกง หมายถึง ความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด และขนมลูกชุบ หมายถึง ให้มีลูกหลาน

ส่วนพานต้นกล้วย ต้นอ้อย จะเป็นการให้บ่าวสาวนำไปปลูกร่วมกัน หากปลูกได้เจริญงอกงาม ความรักก็จะสมบูรณ์ ตามไปด้วย มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง

สิ่งที่ต้องเตรียมในพานขันหมาก ประกอบไปด้วย ขันหมากเอก และขันหมากโท

ขันหมากเอก   ประกอบด้วย

1. พานขันหมาก เป็นพานของฝ่ายชายนำมาที่บ้านฝ่ายหญิง ในพานประกอบไปด้วย หมากพลู ใบเงิน ใบทอง ใบนาค ข้าวเปลือก งา ถั่วเขียว ถุงเงิน ถุงทอง ดอกรัก ดอกดาวเรือง ดอกบานไม่รู้โรย

2.พานต้นกล้วย ต้นอ้อย สมัยโบราณต้องให้มีผลไม้เพราะจะทำให้คู่บ่าวสาวทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง

 3. พานเชิญขันหมาก เป็นพานของฝ่ายหญิง เมื่อขบวนขันหมากมากถึงบ้านฝ่ายหญิง และผ่านประตูเงินประตูทองมาแล้ว ฝ่ายหญิงก็จะลงมาเชิญขันหมากเข้าบ้าน

 4.  พานแหวน ใช้สำหรับใส่แหวนหมั้นของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว

 5.  พานขนม ใส่ขนมมงคล 9 อย่าง ได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองเอก จ่ามงกุฎ เสน่ห์จันทร์ ลูกชุบ ขนมกง ขนมชั้น

6.  พานสินสอด ทองหมั้น ไว้สำหรับใส่เงิน ทอง เพชร นาค ของหมั้น ไว้อาจจะใส่รวมไว้ใน 1 พาน หรือถ้าเยอะมากๆ อาจแยกเป็น 2 พานก็ได้ เมื่อใส่เงินทองเรียบร้อยแล้ว ใส่ใบเงิน ใบทอง ใบนาค กลีบดอกไม้ พวกกุหลาบ ดาวเรือง บานไม่รู้โรย ดอกมะลิ ดอกรัก หรือดอกไม้มงคลอื่นๆ และใส่ถุงเงิน ถุงทอง ลงไปด้วย โดยพานนี้จะคลุมผ้าเอาไว้ ส่วนใหญ่จะใช้ผ้าลูกไม้คลุม

7. พานเทียนแพ ไว้สำหรับบูชาพระรัตนตรัย กราบไว้พ่อ แม่ ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขอพรจากผู้ใหญ่

8.  พานสำหรับไหว้ผู้ใหญ่ สมัยก่อนจะใช้เฉพาะพานธูปเทียนแพเท่านั้น แต่ปัจจุบันจะใช้พานใส่ผ้านุ่ง และผ้าห่มอย่างละ 1 ชิ้น หรืออาจจะใช้ของอื่นไหว้ผู้ใหญ่แทนก็ได้ แต่ไม่ต้องใช้ธูปเทียนและดอกไม้แล้ว

9.  พานรดน้ำสังข์ ใช้สำหรับคู่บ่าวสาวที่มีพิธีรดน้ำสังข์ เพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิตคู่

 10.  ร่มสีขาว 1-2 คัน ให้เถ้าแก่ถือ

พานขันหมากโท ประกอบด้วย

1.    พานขนมมงคล 9 อย่าง ได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองเอก จ่ามงกุฎ เสน่ห์จันทร์ ลูกชุบ ขนมกง ขนมชั้น หรืออาจะเป็นขนมมงคลอย่างอื่นก็ได้ แต่จะไม่นิยมใช้ ขนมต้มแดง ต้มขาว เพราะเป็นขนมที่ใช้ในการทำพิธีทางไสยศาสตร์
2. พานไก่ต้ม หมูนอนตอง
3. พานวุ้นเส้น 1 คู่
4. พานมะพร้าว 1 คู่
5.  พานกล้วยหอม ต้องใส่เป็นคู่ และส้ม 1 คู่
6. พานส้มโอ 1 คู่
7. พานชมพู่ 1 คู่
8.  พานขนมเสน่ห์จันทร์ หรือขนมเปี๊ยะ 1 คู่
9. พานขนม เพื่อแจกให้ญาติผู้ใหญ่ ตามจำนวนที่ต้องการแจก จะใช้ขนมอะไรก็ได้ แล้วแต่ความเชื่อแต่ละบ้าน

พานเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ประกอบด้วย

1.                   ธูป 5 ดอก เทียน 2 เล่ม มะพร้าวอ่อน 1 คู่ กล้วยน้ำว้า 2 หวี ไก่ต้ม 1 ตัว หมูนอนตอง 1 ที่ เหล้า 1 คู่ ผ้าขาว 1 พับ

การจัดขบวนขันหมาก 

1.                   เริ่มขบวนจะเป็นเจ้าบ่าวอยู่หน้าสุดของขบวน ตามด้วย เฒ่าแก่และเด็กผู้ชาย เมื่อเดินมาใกล้ถึงบ้านเจ้าสาว เฒ่าแก่ก็จะออกมารับหน้า ถือว่าเป็นตัวแทนเจ้าบ่าว โดยเจ้าบ่าวถือช่อดอกไม้ พวงมาลัย หรือพานธูปเทียนแพรก็ได้

2.                   คนถือซองเงิน เป็น พ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าว

3.                   คู่ต้นกล้วย ต้นอ้อย

4.                   ขันหมากเอก ให้ญาติผู้ใหญ่ถือ

5.                   คู่ขันหมากพลู

6.                   พานสินสอดทองหมั้น

7.                   พานแหวนหมั้น พานธูปเทียนแพ

8.                   พานคู่ผ้าไหว้

9.                   ขันหมากโท ให้ญาติหรือเพื่อนเจ้าบ่าวถือ

10.               พานคู่ขาหมู

11.               พานคู่วุ้นเส้น

12.               พานคู่มะพร้าว

13.               พานคู่กล้วยหอม ส้ม ชมพู่

14.               พานคู่ขนมมงคล 9 อย่าง

15.               พานคู่ขนมเสน่ห์จันทร์ หรือขนมเปี๊ยะ

16.               พานคู่ขนมกล่องที่ใช้แจกญาติๆ

17.               และปิดท้ายด้วยขบวนรำ

ข้อควรจำ สมัยโบราณมีความเชื่อเรื่องขนมหรือกับข้าวที่ไม่ควรใช้ในงานแต่งงาน หรืองานมงคล เช่น แกงบวด ต้มยำ ต้มผัก เพราะถือเคล็ดเรื่องชื่อฟังแล้วไม่เป็นมงคล  ปลาร้า ปลาเจ่า เพราะเกรงว่าจะเกิดกลิ่นเหม็น 

จะเห็นว่ากว่าจะจัดขบวนขันหมากไปสู่ขอได้มีขั้นตอนค่อนข้างเยอะ ปัจจุบันอาจจะลดทอนปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่อย่างไรก็เป็นการรักษาประเพณีที่ปฏิบัติกันตามกันมา และก็เป็นประเพณีที่สวยงามเป็นการให้เกียรติผู้ใหญ่ทางฝ่ายหญิง เพื่อรักษาไมตรีจิตที่ดีต่อกันไว้ให้ยั่งยืนยาวนานด้วยค่ะ

อาร์หาข้อมูลมาจาก Google นะคะ มาลงไว้เพื่อให้คนที่สนใจอ่านและหาข้อมูลกันต่อไปได้ค่ะ  ส่วนลำดับขั้นตอนอื่นๆอาร์จะมาลงอัพเดทให้ศึกษากันอีกเรื่อยๆนะคะ

11.